จิตสำนึกของคนเล่น ว.
|
จากการที่ความต้องการในการใช้วิทยุสื่อสารไม่ได้ลดน้อยถอยลง ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีในการสื่อสารจะพัฒนาไปมากเพียงใดก็ตาม แต่กลับมีผู้ต้องการใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอาสาสมัคร เช่น อปพร. หน่วยกู้ชีพ หน่วยกู้ภัย ซึ่งบางท่านก็มีความรู้เกี่ยวกับวิทยุสื่อสารเป็นอย่างดี อีกทั้งได้ผ่านการอบรมหรือการสอบการใช้ฟังวิทยุสื่อสารมาแล้ว
|
แต่บางท่านก็ไม่รู้อะไรมากไปกว่าการแอบเปิดฟังข่ายราชการเท่านั้น |
แต่ที่หนักไปกว่านั้นก็คือเกิดคันไม้คันมือกดคีย์ออกอากาศ จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตามแล้วก่อให้เกิดการรบกวนการประสานงานของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติ ก็อาจโดนจับกุมดำเนินคดีมีโทษทั้งจำคุกและปรับ เดือดร้อนกันไปเปล่าๆ
|
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผู้ที่มีเครื่องเปิดแบนด์อยู่ ได้ตั้งความถี่ขึ้นใช้เรียกขานในกลุ่มของตนเอง โดยขาดความรู้ความเข้าใจ โดยหารู้ไม่ว่า ความถี่ตลอดย่านจะมีหน่วยงานต่างๆ ใช้งานกันอยู่ตลอด เช่น หน่วยงานเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติ บก.ทหารสูงสุด ตำรวจ ปกครองกิจการวิทยุสมัครเล่น เป็นต้น
|
ตลอดย่านความถี่ VHF ตั้งแต่ 136.000 MHz จนถึง 174.000 MHz จะมีหน่วยงานต่างๆ ใช้งานอยู่จนเต็มตามที่ได้รับจัดสรรตลอดทั้งย่าน
|
|
อยากใช้ให้ถูก..... ไม่อยากเล่นเถื่อน...
|
ก็แค่เล่นวิทยุ ไม่เห็นต้อง จับ – ปรับ – ขัง เล้ย |
แหม...คุณก็... นี่มันเกี่ยวกับความมั่นคงของชาตินี่ครับ
|
หากว่าใครๆ ก็ใช้ อยากตั้งความถี่อะไรก็ตั้งหน่วยงานราชการ, หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็คงประสานงานกันไม่ได้ผล ประชาชนก็ไม่มีความสุข ชาติบ้านเมืองก็คงวุ่นวาย เมื่อเกิดสาธารณภัยก็ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
|
ใน พรบ. วิทยุคมนาคม ก็ได้มีการกล่าวถึงความผิดต่างๆ ที่เกี่ยงข้องกับการใช้วิทยุคมนาคมไว้หลายข้อด้วยกันจะขอยกมากล่าวเฉพาะที่ใกล้ๆ ตัวสักเล็กน้อย
|
|
ฐานความผิด
|
อัตราโทษ
|
1.มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
|
ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
|
2.ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
|
ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
|
3.ใช้ความถี่ที่ไม่ได้รับอนุญาต
|
บไม่เกิน 1 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
|
4.เป็นพนักงานวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต อัตราโทษ
|
ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทจำคุกไม่เกิน 2 ป ี หรือทั้งจำทั้งปรับ
|
|
|
แล้วอย่างนี้จะรู้ได้ไง... ว่ามีสิทธิ์ใช้แบบไหน...? (เห็นใช้มั่วไปหมด)
|
เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ มีอยู่ 2 ประเภท
|
1. เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ ประเภท 1 ผู้ใช้ตั้งความถี่ได้เองจากภายนอกเครื่อง |
หน่วยงานที่มีสิทธิ์ใช้ได้แก่ |
|
1.กองทัพบก |
|
2.กองทัพอากาศ |
|
3.ทัพเรือ |
|
4.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ |
|
5.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด |
|
6.สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ |
|
7.กรมศุลกากร |
|
8.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ |
|
9.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ |
|
10.กระทรวงมหาดไทย เฉพาะบุคคลที่ดำรงตำแหน่งต่อไปนี้
-
- ปลัดกระทรวงมหาดไทยและรองปลัดกระทรวงมหาดไทย
- เลขานุการปลัดกระทรวงมหาดไทยและเลขานุการรองปลัดกระทรวงมหาดไทย
กิจการวิทยุสมัครเล่น |
|
|
2. เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ประเภท 2 (ผู้ใช้ตั้งความถี่เองไม่ได้) |
ผู้ที่มีสิทธิ์ใช้ได้แก่ |
1.บุคคลที่มีฐานะดังนี้ |
|
1.1.เป็นข้าราชการทุกระดับ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานองค์การของรัฐ ลูกจ้างประจำ |
|
1.2เป็นพนักงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล สุขาภิบาล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา สภาตำบล องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ |
|
1.3ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สารวัตรกำนัน หรือแพทย์ประจำตำบล |
|
1.4เป็นบุคคลธรรมดา ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ความถี่ร่วมกับหน่วยราชการ หรือ รัฐวิสาหกิจอื่นที่ได้รับจัดสรรความถี่วิทยุ |
|
2.ผ่านการฝึกอบรม การใช้เครื่องวิทยุแบบสังเคราะห์ความถี่ประเภท 2 และตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับการสื่อสาร พ.ศ. 2525 |
3.ต้องได้รับความเห็นชอบ จากหัวหน้า หน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ แล้วแต่กรณีว่ามีความจำเป็นต้องใช้เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามกฏหมายวิทยุคมนาคมและระเบียบที่ทางราชการกำหนด |
|
ทำยังไง..? ถึงจะมีสิทธิใช้โดยถูกต้อง
|
ง่ายๆ หากต้องการใช้วิทยุสื่อสารให้ถูกต้องให้ยึดหลัก “3 ค” ดังจะกล่าวต่อไปนี้ |
ค. ที่ 1 ความถูกต้อง คือ ต้องอยู่ในย่านความถี่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น |
ค. ที่ 2 เครื่องถูกต้อง คือได้มาตามขั้นตอนตามกฏหมาย เช่นนำเข้าโดยถูกต้องและได้เสียภาษีนำเข้ากับกรมศุลกากรและเครื่องจะมีหมายเลข กทช. กำกับ |
ค. ที่ 3 คนถูกต้อง ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ต้องผ่านการอบรมหรืออบรมและสอบหรือสอบ เช่นผู้ที่ใช้ร่วมข่ายราชการต้องผ่านการอบรมการใช้วิทยุสังเคราะห์ความถี่ตามระเบียบที่กำหนด ผู้ที่ใช้ความถี่ข่ายวิทยุสมัครเล่นต้องผ่านการอบรมและสอบหรือการสอบเพื่อรับใบประกาศพนักงานวิทยุสมัครเล่น
|
ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้ร่วมข่ายราชการ หรือเป็นนักวิทยุสมัครเล่น ที่สำคัญ ต้องทำให้ตนเองมีสิทธิ์ก่อน เช่น หากเป็น อปพร. ก็ต้องผ่านการอบรมการใช้วิทยุสังเคราะห์ความถี่ประเภทสอง และต้องเป็นการอบรมโดยกองการสื่อสารกรมการปกครอง |
แต่ อปพร. อาสาสมัคร รวมทั้งภาคเอกชน ยังมีทางเลือกอีกหนึ่งทาง นั่นก็คือ การใช้วิทยุย่านความถี่ประชาชน ซึ่งก็มีทั้ง CB27 MHz 78 MH, 245 MHz |
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความถี่ประชาชนย่าน 245 MHz ประสิทธิภาพทุกอย่างก็ไม่ด้อยไปกว่าเครื่องข่ายราชการหรือสมัครเล่นเลย ติดตาม “จิตสำนึกคนเล่น ว. ตอนที่ 3” ซึ่งเป็นบทสรุปสำหรับผู้ที่คิดอยากเล่นวิทยุให้ถูกกฏหมาย และหลีกเลี่ยงการเล่นเถื่อนที่ผิดกฏหมายจะได้ไม่ต้องโดน ว.20 ต่อไป |
|
|
|
|
|
ข้อมูลจาก เอกสารประกอบการอบรมการใ้ช้วิทยุฯแบบสังเคราะห์ความถี่ กรมไปรษณีย์โทรเลข |